Showing 3650 results

Archival description
Print preview View:

2537 results with digital objects Show results with digital objects

ทำบุญเลี้ยงเพลพระสงฆ์ : ถวายเครื่องสังฆทาน

เจ้าหน้าที่ สพร. และผู้ปฏิบัติงานทุกท่าน ร่วมถวายเครื่องสังฆทานแด่พระสงฆ์ ทั้ง 9 รูปที่นิมนต์มาจากวัดโพธิ์

งานพิธีไหว้เจ้าพระภูมิเจ้าที่ (28 พฤศจิกายน 2560)

เพื่อความเป็นสิริมงคลและให้การทำงานราบรื่น จึงมาเซ่นบรวงสรวงพระภูมิเจ้าที่และสิ่งศักด์สิทธิ์

สถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ. ฝ่ายอำนวยการ. งานบริหารทั่วไป

เครื่องเซ่น

เพื่อความเป็นสิริมงคลและให้การทำงานราบรื่น จึงมาเซ่นบรวงสรวงพระภูมิเจ้าที่และสิ่งศักด์สิทธิ์
ความหมายของกลิ่นธูปหอม

  1. กลิ่นกฤษณา ไม้กฤษณาเป็นไม้หอมมีค่าเทียบเท่ากับทองคำ
  2. กลิ่นกุหลาบ กลิ่นกุหลาบเป็นกลิ่นหอมชั้นสูง ช่วยกระตุ้นจิตวิญญานให้สะอาดบริสุทธิ์ ผู้ใช้ธูปชนิดนี้มักจะจุดธูปเพื่อให้เกิดแรงบันดาลใจให้จิตสงบนิ่งมั่นคง
  3. กลิ่นแก่นจันทน์ กลิ่นแก่นจันทน์เป็นกลิ่นที่นิยมใช้กันมาหลายพันปี กลิ่นธูปหอมกรุ่นนี้ช่วยเปลี่ยนให้เกิดอารมณ์ความรู้สึกและการรับรู้ที่ดี กลิ่นธูปหอมพิเศษชนิดนี้ มักถูกใช้ในการนั่งสมาธิและฝึกโยคะ
  4. กลิ่นกำยาน ธูปกลิ่นกำยานนี้ กลิ่นลึกลับ ลึกซึ้ง ช่วยให้เกิดบรรยากาศที่รายล้อม เปรียบดั่งความหอมจากวัดและราชสำนักชั้นสูง กลิ่นหอมที่เข้มข้นนี้ยังช่วยส่งเสริมให้มีสติ สร้างพลังและความกระตือรือร้น
  5. กลิ่นจันทน์กระพ้อ กลิ่นจันทน์กระพ้อ ดอกไม้พิเศษจากโลกตะวันออก เป็นกลิ่นที่ผสมผสานความหอมหวานของดอกไม้นานา ของชาวตะวันออก สรรค์สร้างกลิ่นเพื่อความเบิกบานอิ่มเอมใจ จุดธูปชนิดนี้ ช่วยให้มีสมาธิ ช่วยย้ำให้เกิดความสงบในใจ
  6. กลิ่นดอกแก้ว กลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของธูปชนิดนี้ เป็นที่นิยมใช้ในวัดและพิธีกรรมทางศาสนา และยังเป็นกลิ่นที่เหมาะในการทำสมาธิ กลิ่นหอมหวานของธูปชนิดนี้ ช่วยให้ใจจดจ่อและกระตุ้นจิตให้รับรู้
  7. กลิ่นมะลิ มะลิ เป็นราชินีของดอกไม้หอมทั้งมวล กลิ่นมะลิเป็นกลิ่นอ่อนๆที่เหมาะอย่างยิ่งในการทำสมาธิ สำหรับผู้ชื่นชอบการจุดธูประยะเวลานานๆ กลิ่นที่ผสมผสานพิเศษนี้เหมาะอย่างยิ่งเพื่อผ่อนคลายร่างกายและจิตใจ แนะนำอย่างยิ่งในการนั่งสมาธิ
  8. กลิ่นผงธูป (ไม่มีน้ำหอม) ธูปกลิ่นธรรมชาติเป็นธูปที่ผลิตจากผงไม้ธรรมชาติ เป็นธูปผงไม้ไร้กลิ่น ไม่ใส่น้ำหอม

ความหมายของขนมไทยที่นำมาเซ่นไหว้

  1. ขนมถ้วยฟู มีลักษณะปุย เนื้อเหมือนเค้กสปันจ์หรือเค้กเนื้อฟองน้ำ หน้าขมแตกฟูออก มีหลากหลายสี มีความหมายคือ เฟื่องฟู งอกงาม
  2. ขนมสาลี่ มีลักษณะเนื้อเหมือนเค้กสปันจ์หรือเค้กเนื้อฟองน้ำ หน้าขนมที่แตก ฟูสวยงามเป็นแฉกๆเหมือนดอกฝ้ายที่แตกออกจากฝัก ขนมสาลี่ หมายถึง รุ่งเรือง เฟื่องฟู
  3. ขนมต้ม ใช้แป้งข้าวเหนียวปั้นเป็นก้อนกลม ใส่ไส้น้ำตาลหม้อ มีมะพร้าวขูดโรยหน้า มีสีสันที่หลากหลาย ถวายเพื่อขอพรให้ทำกิจการงานต่าง ๆ ประสบผลสำเร็จ ไม่มีอุปสรรคอะไรมากีดขวาง
  4. ขนมชั้น มีลักษณะเป็นชั้น ให้ได้ 9 ชั้น มีสีที่แตกต่างกัน น สีเขียว สีชมพู สีฟ้า เป็นต้น ขนมชั้น หมายถึงลำดับชั้นยศถาบรรดาศักดิ์ คนไทยในสมัยโบราณทำขนมถึง 9 ชั้น ถือเคล็ดกันว่าจะได้ความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน การเลื่อนชั้น เลื่อนตำแหน่ง
  5. ขนมทองหยิบ เป็นขนมมงคลชนิดหนึ่งมีลักษณะงดงามคล้ายดอกไม้สีทอง ต้องใช้ความสามารถและความพิถีพิถัน เป็นอย่างมาก ในการประดิษฐ์ประดอย จับกลีบให้มีความงดงามเหมือนกลีบดอกไม้ ขนมทองหยิบ หมายถึง มีเงินทองใช้อย่างล้นเหลือไม่รู้จักหมดสิ้น
  6. ทองหยอด มีลักษณะเป็นก้อนกลม สีเหลืองทอง แวววาว มีความหมายคือ เงินทองมีใช้ไม่ขาดสาย
  7. ฝอยทอง มีลักษณะเป็นเส้นนิยมใช้กันในงานมงคลสมรส ถือเคล็ดกันว่าห้ามตัดขนมให้สั้นต้องปล่อยให้เป็น เส้นยาวๆ เพื่อที่คู่บ่าวสาวจะได้ครองชีวิตคู่ และรักกันได้อย่างยืนยาวตลอดไป รวมถึงชีวิตยืนยาวด้วยเช่นกัน
  8. ขนมทองเอก มีลักษณะที่สง่างาม โดดเด่น กว่าขนมตระกูลทองชนิดอื่นๆ ตรงที่มีทองคำเปลวติดไว้ที่ด้านบนของขนม มีความหมายคือ ความร่ำรวย
  9. ขนมเม็ดขนุน มีสีเหลืองทอง รูปร่างลักษณะคล้ายกับเม็ดขนุน ข้างในมีไส้ทำด้วยถั่วเขียวบด ความหมายคือ ความร่ำรวยเงินทอง ลาภ ยศ

ความหมายของผลไม้ที่นำมาเซ่นไหว้

  1. ส้ม เป็นผลไม้แห่งความเป็นสิริมงคล ต้องเลือกส้มที่มีเปลือกสีส้ม หรือสีเหลืองทอง เหตุเพราะ “สีทอง” เป็นสีแห่งความเป็นสิริมงคล ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นส้มสายพันธุ์พิเศษอะไร ขอให้มีเปลือกสีส้ม หรือสีเหลืองทองก็เป็นอันใช้ได้
  2. แก้วมังกร ผลไม้แห่งความอุดมสมบูรณ์ สำหรับแก้วมังกร ตามคติความเชื่อของชาวจีนจะนับถือมังกรเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เพราะเชื่อกันว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งความอุดมสมบรูณ์ แถมเปลือกที่เป็นสีแดงของแก้วมังกรนั้นเป็นสีมงคล เป็นสีแห่งโชคลาภที่จะนำพาความโชคดีมาให้แก่ผู้ไหว้ แนะนำว่าหากเลือกผลที่มีสีข้างในเป็นสีเข้มจะยิ่งดีเข้าไปอีกค่ะ เพราะจะยิ่งเสริมความเป็นสิริมงคลให้มากยิ่งขึ้น
  3. กล้วย เชื่อกันว่าเป็นผลไม้แห่งความมั่งมี แนะนำว่าเป็นกล้วยหอมทองจะดีที่สุด ด้วยลักษณะของกล้วยที่ออกเป็นเครือ จึงมีความหมายในทางมงคลว่า ทำให้ครอบครัวเจริญงอกงาม มีลูกหลานมากมายไว้สืบสกุลนั่นเองค่ะ
    4.แอปเปิ้ล เชื่อกันว่าจะทำให้ผู้ไหว้สุขภาพแข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ และเมื่อไหว้เสร็จแล้วยังสามารถนำมารับประทานเพื่อเสริมมงคลให้กับชีวิต
  4. ทับทิม เชื่อกันว่าหากไหว้ด้วยทับทิมจะช่วยเสริมในเรื่องของครอบครัวนั่นเองค่ะ จะทำให้คนในครอบครัวนั้นรักใคร่กัน อยู่ด้วยกันอย่างอบอุ่น ไม่มีเรื่องขัดแย้งหรือบาดหมางกัน
  5. องุ่น เชื่อกันว่าจะทำให้การงานเจริญก้าวหน้า บวกกับวิตามินและสารอาหารที่อัดแน่น
  6. สัปปะรด เชื่อกันว่าจะทำให้เกิดความรอบคอบ รอบรู้ และมองการณ์ไกล
  7. สาลี่ เชื่อกันว่าจะทำให้มีโชคลาภและพบเจอแต่เรื่องดีๆ
    9.ชมพู่ เชื่อกันว่า จะได้มีคนคอยชื่นชม
  8. ส้มโอ หมายถึงผลไม้ที่ทำให้มีสุขภาพแข็งแรง ความเจริญงอกงาม ความอยู่ดีกินดี ความร่ำรวยมั่งคั่ง ความเฟื่องฟู ความสมบูรณ์พูนสุข การมีลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมือง ครอบครัวกลมเกลียว ความเจริญเติบโต(ของครอบครัวและการงาน)
  9. อ้อย เนื่อจากท่านพระพิฆเนศเป็นช่าง จึงควรถวายมังสวิรัติ

มาลัยดอกไม้

พวงมาลัยดอกไม้สดนำมาเพื่อเป็นการสักการะบูชาพระภมูิเจ้าที่ โดย ดอกมะลิหมายถึง พบแต่ความสุขสดชื่น ไม่ว่าจะเป็นมะลิซ้อนหรือมะลิลา ก็เป็นสิริมงคลในด้านทำให้คนในบ้านมีความบริสุทธิ์ มีความรักความคิดถึงแก่บุคคลทั่วไป ดอกกุหลาบ หมายถึง พบแต่ความมีเสน่ห์แก่ผู้พบเห็น

ไหว้เจ้าที่

บายศรี เครื่องใช้ในพิธีกรรม เพื่อความเป็นสิริมงคล
เมื่อพูดถึง “บายศรี” เชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่จะรู้จักและคุ้นเคยเพราะพบเห็นบ่อยในพิธีกรรมต่างๆ แทบทุกภาคของไทย เช่น การทำขวัญคน การทำขวัญข้าว การบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ การไหว้ครูนาฏศิลป์ดนตรี และพิธีสมโภชพระพุทธรูป เป็นต้น ซึ่งพิธีกรรมเหล่านี้ล้วนต้องใช้บายศรีเป็นเครื่องประกอบทั้งสิ้น

ความหมายของขนมไทยที่นำมาเซ่นไหว้

  • ขนมถ้วยฟู หมายถึง เฟื่องฟู งอกงาม ขนมไหว้เจ้าวันสารทจีนที่เป็นสิริมงคลอีกชนิดหนึ่ง มองภายนอกจะเห็นว่าเนื้อฟู ทำได้หลายสี แต่ส่วนใหญ่จะใช้สีชมพูในการไหว้เจ้ากัน แถมมีกลิ่นหอม อาจใส่กลิ่นมะลิ หรือกลิ่นนมแมว จะทำเป็นชิ้นเล็กหรือชิ้นใหญ่ไหว้ก็แล้วแต่ความชอบ
  • ขนมสาลี่ หมายถึง รุ่งเรือง เฟื่องฟู
  • ขนมต้ม ขนมต้มเป็นขนมที่องค์พระพิฆเนศวรทรงโปรดมากที่สุด ถึงขนาดที่กินจนท้องแตกก็ยังกอบเอาขนมที่หกเลอะอยู่ที่พื้นกลับเข้าท้องอีกครั้งด้วยความเสียดาย ขนมต้มจึงเหมือนเป็นขนมที่ใช้ถวายต่อองค์พระพิฆเนศวร มีบทบาทสำคัญในพิธีบวงสรวงเทวดา ในพิธีกรรมต่างๆ เช่น ยกเสาเอก ตั้งศาลพระภูมิ ในประเพณีสู่ขอแต่โบราณในบางท้องที่ใช้ขนมต้มด้วย เพื่อขอพรให้ทำกิจการงานต่าง ๆ ประสบผลสำเร็จ ไม่มีอุปสรรคอะไรมากีดขวางนั่นเอง
  • ขนมชั้น หมายถึงลำดับชั้นยศถาบรรดาศักดิ์ คนไทยในสมัยโบราณทำขนมถึง 9 ชั้น ถือเคล็ดกันว่าจะได้ความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน การเลื่อนชั้น เลื่อนตำแหน่ง
  • ขนมทองหยิบ ทองหยอด ทองเอก เป็นขนมมงคล เชื่อกันว่าจะมีเงินทองใช้อย่างล้นเหลือไม่รู้จักหมดสิ้น
  • ขนมเม็ดขนุน มีในงานมงคลต่างๆ ให้ความหมายว่า ทำกิจการใดก็จะมีคนคอยสนับสนุน ค้ำจุน ช่วยเหลือไม่มีวันตกต่ำ

ลักษณะของขนมที่ใช้ในการไหว้เจ้า

  • ฝอยทอง ลักษณะฝอยทอง เป็นเส้น ๆ พันกันเป็นทบ ๆ โดยเชื่อว่า ให้ทำขนมฝอยทองเป็นเส้นยาว ๆ ห้ามตัด หมายถึง เพื่อที่คู่บ่าว-สาว จะได้ครองรัก ครองเรือน มีชีวิตยิ่งยืน อายุยืนยาวเหมือนเส้นฝอยทอง
  • หมากพลู มีบทบาทสำคัญในพิธีบวงสรวงเทวดา หมากพลูในสมัยโบราณจึงเป็นตัวแทนของความเคารพ นับถือ และมิตรภาพ
  • ขนมถ้วยฟู มีลักษณะปุย เนื้อเหมือนเค้กสปันจ์หรือเค้กเนื้อฟองน้ำ หน้าขมแตกฟูออก มีหลากหลายสี นิยมใช้สีชมพู ใช้ในงานอวมงคลหรือไหว้บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้วนิยมใช้สีขาว ในปัจจุบันยังหาทานได้ง่ายมีหลากหลายสี เช่น ชมพู เขียว ขาว ฟ้า
  • ขนมสาลี่ มีลักษณะเนื้อเหมือนเค้กสปันจ์หรือเค้กเนื้อฟองน้ำ หน้าขนมที่แตก ฟูสวยงามเป็นแฉกๆเหมือนดอกฝ้ายที่แตกออกจากฝัก
  • ขนมต้ม ใช้แป้งข้าวเหนียวปั้นเป็นก้อนกลม ใส่ไส้น้ำตาลหม้อ มีมะพร้าวขูดโรยหน้า มีสีสันที่หลากหลาย
  • ขนมชั้น มีลักษณะเป็นชั้น ให้ได้ 9 ชั้น เพราะคนไทยมีความเชื่อว่าเลข 9 เป็น เลขสิริมงคล มีสีที่แตกต่างกัน น สีเขียว สีชมพู สีฟ้า เป็นต้น
  • ขนมทองหยิบ เป็นขนมมงคลชนิดหนึ่งมีลักษณะงดงามคล้ายดอกไม้สีทอง ต้องใช้ความสามารถและความพิถีพิถัน เป็นอย่างมาก ในการประดิษฐ์ประดอย จับกลีบให้มีความงดงามเหมือนกลีบดอกไม้
  • ทองหยอด มีลักษณะเป็นก้อนกลม สีเหลืองทอง แวววาว
  • ขนมทองเอก มีลักษณะที่สง่างาม โดดเด่น กว่าขนมตระกูลทองชนิดอื่นๆ ตรงที่มีทองคำเปลวติดไว้ที่ด้านบนของขนม
  • ขนมเม็ดขนุน มีสีเหลืองทอง รูปร่างลักษณะคล้ายกับเม็ดขนุน ข้างในมีไส้ทำด้วยถั่วเขียวบด

ขอพร

การจุดธูปบนอาหาร เป็นการนำอาหารมาบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เป็นการจุดธูปเพื่อระบุว่าไหว้ให้กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น เพื่อไม่ให้สัมภเวสีมารับประทาน ส่วนใหญ่แล้วจะใช้ธูปที่มีกลิ่นหอม ซึ่งหมายถึง ผู้ใดที่สูดกลิ่นของธูปเข้าไปจะทำให้จิตใจปราศจากกิเลส

เซ่นเจ้าที่

การจุดธูป 9 ดอก : เป็นการจุดธูปบูชาผู้มีพระคุณพระภูมิเจ้าที่ เทพ เจ้าป่า เจ้าเขา รุกขเทวดา ศาลพระภูมิ ศาลเทพ

ความหมายของกลิ่นธูปหอม

  1. กลิ่นกฤษณา ไม้กฤษณาเป็นไม้หอมมีค่าเทียบเท่ากับทองคำ
  2. กลิ่นกุหลาบ กลิ่นกุหลาบเป็นกลิ่นหอมชั้นสูง ช่วยกระตุ้นจิตวิญญานให้สะอาดบริสุทธิ์ ผู้ใช้ธูปชนิดนี้มักจะจุดธูปเพื่อให้เกิดแรงบันดาลใจให้จิตสงบนิ่งมั่นคง
  3. กลิ่นแก่นจันทน์ กลิ่นแก่นจันทน์เป็นกลิ่นที่นิยมใช้กันมาหลายพันปี กลิ่นธูปหอมกรุ่นนี้ช่วยเปลี่ยนให้เกิดอารมณ์ความรู้สึกและการรับรู้ที่ดี กลิ่นธูปหอมพิเศษชนิดนี้ มักถูกใช้ในการนั่งสมาธิและฝึกโยคะ
  4. กลิ่นกำยาน ธูปกลิ่นกำยานนี้ กลิ่นลึกลับ ลึกซึ้ง ช่วยให้เกิดบรรยากาศที่รายล้อม เปรียบดั่งความหอมจากวัดและราชสำนักชั้นสูง กลิ่นหอมที่เข้มข้นนี้ยังช่วยส่งเสริมให้มีสติ สร้างพลังและความกระตือรือร้น
  5. กลิ่นจันทน์กระพ้อ กลิ่นจันทน์กระพ้อ ดอกไม้พิเศษจากโลกตะวันออก เป็นกลิ่นที่ผสมผสานความหอมหวานของดอกไม้นานา ของชาวตะวันออก สรรค์สร้างกลิ่นเพื่อความเบิกบานอิ่มเอมใจ จุดธูปชนิดนี้ ช่วยให้มีสมาธิ ช่วยย้ำให้เกิดความสงบในใจ
  6. กลิ่นดอกแก้ว กลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของธูปชนิดนี้ เป็นที่นิยมใช้ในวัดและพิธีกรรมทางศาสนา และยังเป็นกลิ่นที่เหมาะในการทำสมาธิ กลิ่นหอมหวานของธูปชนิดนี้ ช่วยให้ใจจดจ่อและกระตุ้นจิตให้รับรู้
  7. กลิ่นมะลิ มะลิ เป็นราชินีของดอกไม้หอมทั้งมวล กลิ่นมะลิเป็นกลิ่นอ่อนๆที่เหมาะอย่างยิ่งในการทำสมาธิ สำหรับผู้ชื่นชอบการจุดธูประยะเวลานานๆ กลิ่นที่ผสมผสานพิเศษนี้เหมาะอย่างยิ่งเพื่อผ่อนคลายร่างกายและจิตใจ แนะนำอย่างยิ่งในการนั่งสมาธิ
  8. กลิ่นผงธูป (ไม่มีน้ำหอม) ธูปกลิ่นธรรมชาติเป็นธูปที่ผลิตจากผงไม้ธรรมชาติ เป็นธูปผงไม้ไร้กลิ่น ไม่ใส่น้ำหอม

ทำบุญเลี้ยงเพลพระ (วันที่ 28 พฤศจิกายน 2560)

ทำบุญเลี้ยงพระเพลเนื่องในโอกาสเปิดนิทรรศการถาวรเรื่อง "ถอดรหัสไทย" ในวันที่ 1 ธันวาคม 2560 จึงต้องมีการทำบุญเพื่อความเป็นสิริมงคลในอังคารที่ 28 พฤศจิกายน 2560 เวลา 10.00 น.

ทำพิธีสงฆ์

พิธีทำบุญงานมงคลทุกประเภท รวมทั้งพิธีทำบุญงานมงคลสมรสด้วย โดยมากมักนิยมนิมนต์พระสงฆ์ไปเจริญพระพุทธมงคล จำนวน 9 รูป ทั้งนี้ เพราะชาวบ้านโดยมากถือกันว่า เลข 9 นั้น การออกเสียงใกล้เคียงกับคำว่า “ก้าว” คือก้าวหน้า หมายถึงความเจริญรุ่งเรือง หรือ ถือกันตามมหาทักษาพยากรณ์ว่า เลข 9 นั้น เท่ากับกำลังพระเกตุ 9 ซึ่งอาจคุ้มครองป้องกันภยันตรายได้นานาประการ

  และถือกันตามคติธรรมทางพระพุทธศาสนาว่า เลข 9 นั้น เท่ากับนวหรคุณ 9 ประการ อันเป็นสิริมงคลอย่างสูง และเท่ากับโลกุตตรธรรม 9 ประการ คือ มรรค 4 ผล 4 นิพพาน 1 ซึ่งเป็นผลที่เยี่ยมยอดสูงสุดในพระพุทธศาสนา

ถวายอาหารเพล

“เลี้ยงพระเช้า” (เลี้ยงพระเพล) หรือฉันเช้า (ฉันเพล) โดยนิมนต์พระภิกษุสงฆ์ มาเจริญพระพุทธ มนต์ก่อน จบแล้วถวายภัตตาหารให้เสร็จสิ้นในเวลา เดียวกัน อย่างนี้เรียกว่า “ทำบุญเลี้ยงพระ”

ประเคนอาหารเพล

การประเคนหมายถึงการมอบให้ด้วยความเคารพ ใช้ปฎิบัติต่อพระภิกษุสงฆ์เท่านั้น มีวินัยบัญญัติห้ามพระภิกษุสงฆ์รับ หรือหยิบสิ่งของมาขบฉันเอง โดยไม่มีผู้ประเคนให้ถูกต้องเสียก่อน เพื่อตัดปัญหาเรื่องการถวายแล้วหรือยังไม่ได้ถวาย จึงให้พระภิกษุสงฆ์รับของประเคนเท่านั้น ยกเว้นน้ำเปล่าที่ไม่ผสมสี เช่น น้ำฝน น้ำประปา เป็นต้น เพื่อเป็นการแสดงออกอย่างชัดเจนว่า สิ่งของนั้นๆ เป็นของจัดถวายพระภิกษุสงฆ์แน่นอน โดยมีผู้ประเคนเป็นพยานรู้เห็นด้วยผู้หนึ่ง การประเคนของจึงเป็นการสนับสนุนให้พระภิกษุสงฆ์ปฎิบัติตามพระวินัยได้ถูกต้อง

การประเคนที่ถูกต้องตามหลักพระวินัยมีลักษณะที่กำหนดไว้ 5 ประการ ดังนี้

  1. สิ่งของที่จะประเคนต้องไม่ใหญ่จนเกินไปหรือหนักเกินไป ขนาดคนพอมีกำลังปานกลางยกขึ้นได้ ถ้าหนักหรือใหญ่เกินไปไม่ต้องประเคน

  2. ผู้ประเคนต้องอยู่ในหัตถบาส คือเอามือประสานกันแล้วยื่นไปข้างหน้า ห่างจากพระภิกษุสงฆ์ผู้รับประมาณ 1 ศอก

  3. ผู้ประเคนน้อมสิ่งนั้นส่งให้พระภิกษุสงฆ์ด้วยกริยาอ่อนน้อม แสดงความเคารพ

  4. การน้อมสิ่งของเข้ามาให้นั้นจะส่งให้ด้วยมือก็ได้หรือใช้ขิงเนื่องด้วยกายก็ได้ เช่น ใช้ทัพพี หรือช้อนตักอาหารใส่บาตรที่ท่านถือ หรือสะพายอยู่ก็ได้

  5. ในกรณีผู้ประเคนเป็นชาย พระภิกษุสงฆ์ผู้รับจะรับด้วยมือ ในกรณีผู้ประเคนเป็นผู้หญิง จะรับด้วยของเนื่องด้วยกาย เช่น ผ้าทอดรับ ใช้บาตรรับ ใช้จานรับ

พระให้พร

บทสวด พระให้พร
สัพพีติโย วิวัชชันตุ สัพพะโรโค วินาสะตุ
มาเต ภะวัตวันตะราโย สุขีทีฆายุโก ภะวะ
อภิวาทะนะสีลิสสะนิจจัง วุฒฑาปะจายิโน
จัตตาโร ธัมมา วัชชันติ อายุ วัณโณ สุขัง พะลัง

ความจัญไรทั้งปวงจงพินาศไป โรคทั้งปวงของท่านจงหาย
อันตรายทั้งปวงจงอย่ามีแก่ท่าน ท่านจงเป็นผู้มีความสุข มีอายุยืน
บุคคลผู้มีปกติไหว้กราบ มีปกติอ่อนน้อมต่อผู้ใหญ่เป็นนิตย์
ธรรม 4 ประการ คือ อายุ วรรณะ สุขะ พละ ย่อมเจริญแก่บุคคลนั้น

รับประทานอาหารร่วมกัน

รับประทานอาหารกลางวันร่วมกันหลังจากถวายเพลพระแล้ว เป็นการรับประทานอาหารพูดคุยพบปะกันของเจ้าหน้าที่สถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ (มิวเซี่ยมสยาม)

ทำบุญครบรอบ 10 ปี มิวเซียมสยาม

2 เมษายน ของทุกปี คือวันครบรอบวันเปิดบริการมิวเซียม ซึ่งวันที่ 2 เดือนเมษายน พุทธศักราช 2561 นี้ครบรอบ 10 ปี ทางเจ้าหน้าที่ สพร. จึงจัดเตรียมของไหว้เพื่อสักการะพระภูมิเจ้าที่ เพื่อเป็นสิริมงคลแก่หน่วยงานและคนทำงานทุกคน

โต๊ะหมู่บูชา

เริ่มมีมาแต่รัตนโกสินทร์ตอนต้น สืบเนื่องมาแต่รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ได้ทรงมีพระราชดำริให้จัดสร้างม้าหมู่ขึ้นสำหรับตั้งเครื่องบูชาหน้าพระประธานในพระอุโบสถวัดพระเชตุพน ซึ่งเป็นม้าหมู่ขนาดใหญ่และม้าหมู่ขนาดน้อยที่ตั้งประจำวิหารทิศ แต่ยังไม่มีโต๊ะตัวล่างที่เป็นฐานรองรับม้าหมู่ ซึ่งเป็นการจัดแปลงโต๊ะเครื่องบูชาอย่างจีนมาเป็นอย่างไทย และต่อมามีผู้นิยมจัดโต๊ะเครื่องบูชาม้าหมู่เพื่อใช้เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปและมีโต๊ะประกอบเป็นที่ตั้งเครื่องบูชาในการทำบุญโอกาสต่าง ๆ ของพระบรมวงศานุวงศ์ และของเจ้านายผู้ใหญ่ในสมัยนั้น

ในช่วงระยะเวลาที่ถือว่าได้มีการพัฒนาเกี่ยวกับโต๊ะหมู่บูชามากที่สุดยุคหนึ่งก็คือ ในการจัดพระราชพิธีพระบรมราชาภิเษกพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ขอแรงพระบรมวงศานุวงศ์ เจ้าภาษี นายอากร พ่อค้า จัดโต๊ะเครื่องบูชาเข้าไปตั้งเป็นเครื่องประดับ จำนวน 100 โต๊ะ ซึ่งเป็นปฐมเหตุที่ให้มีความนิยมในการประกวดโต๊ะเครื่องบูชา
การจัดโต๊ะหมู่บูชาถือได้ว่าเป็นเอกลักษณ์ของชาติอย่างหนึ่ง โดยเฉพาะการจัดโต๊ะหมู่บูชา 5 เป็นรูปแบบหนึ่งที่นิยมจัดกันมาก

เครื่องสังฆทาน

องค์ประกอบของสังฆทานควรมีอะไรบ้าง?
ควรเป็นสิ่งของที่พระสงฆ์สามารถนำไปใช้งานได้จริง ได้แก่
1.ยาสระผม คนมักคิดว่าพระไม่มีผมไม่จำเป็นต้องใช้ยาสระผม แต่จริง ๆ แล้วจำเป็นเพราะส่วนหนึ่งอาจมีคราบไคลและไขมันที่เกาะสกปรกตามหนังศีรษะอยู่บ้าง
2.มีดโกน
3.อุปกรณ์เครื่องครัว เช่น จาน กะทะ หม้อ ช้อน แก้วน้ำ ที่มีคุณภาพ พระสามารถใช้เป็นของส่วนตัวและเอื้อเฟื้อสำหรับญาติโยมที่มาทำบุญได้ด้วย
4.อุปกรณ์ช่าง ค้อน ตะปู ไขควง สว่าน ที่พระมีโอกาสได้ใช้ในการซ่อมแซมต่าง ๆ ในวัดและกุฏิ
5.อุปกรณ์ทำความสะอาด ไม้กวาด ไม้ถูพื้น ไม้กวาดแข็ง ที่โกยขยะ เป็นอุปกรณ์จำเป็น
6.ข้าวสาร อาหารแห้ง
7.เครื่องเขียน สมุด ปากกา ดินสอ
8.หนังสือธรรมะ หรือหนังสือแนวทางการดูแลสุขภาพ
9.ผ้าสบง จีวร ผ้า
10.ยาสมุนไพร ยารักษาโรค

เจริญพระพุทธมนต์

บทเจริญพระพุทธมนต์
การเจริญพระพุทธมนต์ นิยมใช้ในงานมงคล ก่อนแต่จะเจริญพระพุทธมนต์นั้น
ผู้ที่ทำหน้าที่ด้านศาสนพิธี จะนำกล่าวคำอาราธนาพระปริตร,บทเจริญพระพุทธมนต์ ดังนี้

คำอาราธนาพระปริตร
วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสัทธิยา
สัพพะ ทุกขะ วินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง
วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา
สัพพะ ภะยะ วินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง
วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา
สัพพะ โรคะ วินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง

การเจริญพระพุทธมนต์ต้องประกอบด้วยบทสวดอะไรบ้าง?
ประกอบด้วยบทสวด ดังนี้
ชุมนุมเทวดา
นอบน้อมพุทธคุณ
ไตรสรณคมน์
นะมะการะสิทธิคาถา
นะโมการะอัฏฐะกะคาถา
บทขัดตำนาน
บทขัดมังคะละสูตร
มังคะละสูตร
บทขัดระตะนะสูตร
ระตะนะสูตร
บทขัดกะระณียะเมตตะสูตร
กะระณียะเมตตะสูตร
บทขัดขันธะปะริตตะคาถา
ขันธะปะริตตะคาถา
พระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ
บทขัดโมระปริตร
โมระปริตร
บทขัดวัฏฏะกะปริตร
วัฏฏะกะปริตร
บทขัดอังคุลิมาละปริตร
อังคุลิมาละปริตร
บทขัดโพชฌังคะปริตร
โพชฌังคะปริตร
บทขัดอะภะยะปริตร
อะภะยะปริตร
บทขัดอาฏานาฏิยะปริตร
อาฏานาฏิยะปริตร
ถวายพรพระ

ถวายภัตตาหารเพล

อานิสงส์การถวายภัตตาหารและจตุปัจจัยไทยธรรม ได้แก่

  1. เป็นผู้ที่ถึงพร้อมด้วย อายุ คือ มีอายุขัยยืนยาวปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ
  2. เป็นผู้ที่ถึงพร้อมด้วย วรรณะ คือ มีผิวพรรณวรรณะผ่องใส เป็นที่ดึงดูดตา ดึงดูดใจ เป็นที่รักที่ชอบใจของผู้พบเห็น ซึ่งจะเป็นทางมาแห่งโอกาสและโภคทรัพย์สมบัติทั้งหลาย
  3. เป็นผู้ที่ถึงพร้อมด้วย สุขะ คือ มีความสุขทั้งกายและใจ มีอารมณ์แจ่มใส ร่าเริง เบิกบานอยู่เป็นนิจ
  4. เป็นผู้ที่ถึงพร้อมด้วย พละ คือ มีเรี่ยวแรงมหาศาล เป็นที่เคารพยำเกรงของมหาชนทั้งหลาย
  5. เป็นผู้ที่ถึงพร้อมด้วย ปฏิภาณ คือ มีสติปัญญาที่เฉลียวฉลาด หลักแหลม รอบรู้ในสรรพวิชาทั้งปวง
  6. เมื่อสละความตระหนี่ออกจากใจและทำบุญถูกเนื้อนาบุญ ย่อมเป็นเหตุให้ทรัพย์สมบัติบังเกิดขึ้นโดยง่าย
  7. เป็นที่เคารพรักของมนุษย์และเทวดาทั้งหลาย
  8. เดินทางไป ณ สถานที่แห่งใดย่อมได้รับการต้อนรับอย่างดี
  9. เป็นผู้มีกำลังใจในการสร้างบารมีอย่างไม่สิ้นสุด
Results 1361 to 1380 of 3650